รวมคำโกหกหลอกลวงของตัวละครในเกมที่เราหลงเชื่อ
เริ่มต้นเรื่องแรกกับการโกหกของตัวร้ายในวิดีโอเกม ที่ตรงกับคำโบราณที่ว่าไม่มีสัจจะในหมู่โจร คำ ๆ นี้ใช้ได้ผลในทุกยุคสมัยจริง ๆ โดยเฉพาะเกมในซีรีส์ ‘Rockman’ ที่ตั้งแต่ภาคแรกของเกมมาจนถึงภาคล่าสุดอย่าง ‘Rockman 11’ เราก็ยังคงเห็นตัวร้ายอย่าง ดร.ไวลี่ (Dr. Wily) ออกมาสร้างความวุ่นวายตลอด ทั้งภาคหลักภาคแยกภาคย่อยไปจนถึงภาคเสริม ที่ทุกครั้งที่พ่ายแพ้ดร.ไวลี่ก็จะก้มขอขมายอมแพ้และสัญญาว่าจะไม่ทำเรื่องชั่วร้ายอีก แต่สุดท้ายเขาก็กลับมาในภาคต่อไปกับแผนการครองโลก ซึ่งตอนแรก ๆ ‘Rockman’ ก็เชื่อแต่หลัง ๆ พอเจอบ่อย ๆ เข้าก็ไม่เชื่อใจอย่างใน ‘Rockman 7’ ที่ ‘Rockman’ คิดจะฆ่าดร.ไวลี่ทิ้งเพื่อตัดปัญหาจนเป็นการทำลายกฎ 3 ข้อของหุ่นยนต์ที่ห้ามทำร้ายมนุษย์ ซึ่งจนถึงตอนนี้เขาก็ไม่เคยรักษาสัญญาได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว นับเป็นการโกหกครั้งใหญ่ของวงการเกมที่นักเล่นเกมจดจำได้เป็นอย่างดี
ขอบคุณมาริโอ้แต่เจ้าหญิงอยู่ปราสาทต่อไป จากเกม Super Mario Bros
คุณเคยพยายามทำอะไรบางอย่างด้วยความยากลำบากรึเปล่า แน่นอนว่าคุณต้องเคยทำกันมาบ้าง และหนึ่งในนั้นก็คือการนั่งเล่นเกม ‘Super Mario Bros’ ภาคแรก ที่เราจะได้ฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ มากมายเพื่อไปช่วยเจ้าหญิง ที่เมื่อเราตัดสะพานฆ่าหัวหน้าประจำฉากไปได้แทนที่เราจะได้เจอตัวเจ้าหญิงที่เราตามช่วย แต่กลับพบเพียงเจ้าโทด (Toad) คนสนิทหัวเห็ดของเจ้าหญิงที่ขอบคุณราและบอกว่าเจ้าหญิงถูกจับอยู่ที่ปราสาทต่อไป โอเคได้ถ้าแบบนั้นเราก็ไปที่ด่านต่อไป จนเมื่อมาถึงที่ปราสาทต่อมาเราก็เจอเจ้าโทดคนเดิม และพูดประโยคเดิมแบบนี้ซ้ำ ๆ ไปสิบกว่าด่าน ซึ่งไม่ว่าจะดูยังไงมันก็คือคำโกหกที่เราต้องเจอซ้ำ ๆ ที่จะว่าเป็นฝีมือของตัวร้ายที่หลอกเราก็ไม่น่าจะใช่ เพราะทุกครั้งที่เราเจอก็คือเจ้าโทดคนเดิม ก็หมายความว่าถ้าตัวร้ายไม่จับเจ้าหัวเห็ดโทดมาซ้ำ ๆ ก็แปลว่าเจ้าหญิงกำลังปั่นหัวเราอยู่อย่างแน่นอน และถ้าเราดูรูปเจ้าโทดดี ๆ จะเห็นว่ามันกำลังชูนิ้วกลางให้เราด้วย ยิ่งเป็นการตอกย้ำเรื่องนี้เข้าไปอีก
แกคือฆาตกร จากเกม Among Us
ถ้าพูดถึงเกมที่เน้นการโกหกหลอกลวงผู้เล่นก็มีอยู่มากมายในตลาด แต่เกมที่เป็นกระแสและเป็นที่นิยมในตอนนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นเกม ‘Among Us’ เกมที่ให้เรารับบทเป็น ‘The Impostor’ ที่ต้องฆ่าทุกคนในยานให้หมดโดยที่ไม่ให้มีใครรู้ ซึ่งสิ่งที่เราต้องทำก็คือการโกหกหรือใส่ร้ายคนอื่นว่าเป็นคนร้าย(ถ้าคุณได้รับบทนั้น) ส่วนคนที่ไม่ได้เป็นคนร้ายก็ต้องระแวงว่าใครคือคนร้าย เพราะทุกคนนั้นน่าสงสัยทั้งหมดจนเราไว้ใจใครไม่ได้ ส่วนคนที่ไม่เคยเล่นเกมนี้ เกมจะให้เรารับบทเป็นตัวละครที่อยู่ในยานอวกาศที่ต้องทำภารกิจต่าง ๆ เพื่อให้ยานไปต่อได้ ส่วนคนร้ายหรือ ‘The Impostor’ ก็มีหน้าที่ในการฆ่าคนในยานให้หมดโดยไม่ให้ใครรู้ ซึ่งถ้ามีคนรู้และพร้อมใจกันออกเสียงเลือกเราว่าเป็นคนร้าย เราก็จะถูกเตะออกไปนอกยานที่ถือว่าพ่ายแพ้ ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนก็สามารถเลือกคนผิดไปได้ด้วย(คนร้ายตัวจริงก็ยืนยิ้มไป) ตัวเกมเน้นการพูดคุยสื่อสารเพื่อใส่ร้ายหรือยืนยันตัวตน นับเป็นเกมที่ตรงกับเนื้อหาบทความที่สุด
เลิกแก้แค้นแต่ก็ทำไม่ได้ จากเกม The Last of Us Part II
ไม่เจอกับตัวเองไม่มีวันเข้าใจถึงความรู้สึกนี้ นั่นคือสิ่งที่เกม ‘The Last of Us Part II’ ต้องการสื่อกับคนเล่นเกม ที่ใน ‘The Last of Us’ ภาคแรกจะสื่อถึงความรักความผูกพันสายใยของพ่อลูกที่เชื่อมถึงกันในโลกอันโหดร้าย ขณะที่ในภาค 2 ของเกมนั้นจะตรงข้ามกับภาคแรกทุกอย่าง ทั้งความโกรธเกลียดเคียดแค้นความพยาบาทที่ไม่ว่าตัวละครในเกมจะปล่อยวางยังไงความรู้สึกผิดบาปก็ยังคงติดอยู่ในใจจนล้างไม่ออก กลายเป็นโกหกคนที่รักว่าฉันปล่อยวางแล้วพอแล้วเลิกแล้ว แต่สุดท้ายจิตใจลึก ๆ ก็ยังคงรู้สึกถึงมันและภาพนั้นก็ยังตามมาหลอกหลอน(ภาคคนที่รักถูกฆ่าต่อหน้า) ที่แม้จะหนีเท่าใดก็หนีไม่พ้น เช่นเดียวกับเอลลี่ (Ellie) ที่สามารถกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติกับครอบครัวคนที่รักได้แล้ว แต่สุดท้ายเธอก็ต้องกลับไปในวังวนของการแก้แค้น เพราะความรู้สึกโกรธเกลียดเคียดแค้นยังคงฝังลึกจนไม่สามารถหนีไปได้ ทั้งที่สัญญาเอาไว้แล้วว่าจะไม่แก้แค้น จนสุดท้ายเอลลี่ก็ไม่เหลือใครแถมยังต้องจมทุกข์อยู่กับความเศร้านั้นไปตลอดชีวิต ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เอลลี่ได้กลับมาจากการโกหกและการไม่ปล่อยวางของตนเอง
Zeus หลอก Kratos ในเกม God of War 2
คราวนี้มาดูการหลอกแบบง่าย ๆ แต่เราก็หลงเชื่อเพราะความไว้ใจกันบ้าง กับการหลอกของซุส (Zeus) ที่จะให้เครโทส (Kratos) วางใจเพื่อไปหยิบดาบ ‘Blade of Olympus’ จนถูกขโมยพลังไปจนหมด โดยทุกอย่างมันเริ่มต้นที่ความหยิ่งผยองของเครโทสที่เมื่อตนได้เป็นเทพเจ้าแห่งสงครามแทนเทพองค์ก่อน เขาก็ใช้พลังที่มีช่วยฝ่ายกรีกของตัวเองจนชนะสงครามครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เทพแห่งสงครามไม่ควรทำในการเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จนซุสต้องลงมาจัดการกับเรื่องนี้โดยการเสกรูปปั้นยักษ์ให้มาทำลายเมืองกรีก จนเครโทสต้องลงจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่เกินกว่าที่เทพเจ้าแห่งสงครามอย่างเขาจะทำลายมันได้ ตอนนั้นเองซุสก็ส่ง ‘Blade of Olympus’ มาให้เครโทสเพื่อยืมพลัง ที่เมื่อเครโทสจับดาบผลกลับเป็นตรงข้ามเพราะเขากลับถูกดูดพลังเทพไปจนหมด ในวินาทีนั้นสีหน้าของเครโทสเต็มไปด้วยความผิดหวังที่ถูกคนที่ไว้ใจโกหกหักหลัง(รูปประกอบด้านล่าง) แถมยังถูกซุสแทงจนเสียชีวิตเกิดเป็นเรื่องราวการฆ่าล้างบางทวยเทพนับตั้งแต่นั้นมา ซึ่งถ้ามองกันจริง ๆ แล้วเครโทสก็ผิดแต่การโกหกเพื่อกำจัดอีกฝ่ายก็ดูไม่ค่อยเข้าท่า ยิ่งซุสที่เป็นถึงเทพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโอลิมปัสมาทำแบบนี้มันก็ดูไม่เหมาะสมเข้าไปอีก ระดับความสามารถของเขาควรทำสิ่งที่ถูกต้องกว่านี้ ซึ่งผลที่ตามมาของการโกหกของซุสก็ร้ายแรงจนถึงชีวิตเลยทีเดียว
Albert Wesker หลอกหน่วย S.T.A.R.S. ไปตาย จากเกม Resident Evil 1
เชื่อว่าคนที่เล่นเกม ‘Resident Evil’ ภาคแรกในสมัยเครื่อง ‘PlayStation 1’ จนมาถึงตอนท้ายเกมต้องรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อเรารู้ว่าสิ่งต่าง ๆ ที่เราต้องเจอมาทั้งหมดตลอดทั้งเกมไม่ว่าจะเป็นฝูงซอมบี้ไปจนถึงสัตว์ประหลาดที่ฆ่าชีวิตเพื่อนร่วมทีมหน่วย S.T.A.R.S. ของเรานั้นมันคือแผนการของอัลเบิร์ต เวสเกอร์ (Albert Wesker) ที่ต้องการทดสอบเหล่าอาวุธชีวภาพของตนเองว่ามันจะทำงานได้ดีขนาดไหน ถ้าต้องต่อสู้กับหน่วยพิเศษที่ถูกฝึกมาอย่างดีอย่างหน่วย S.T.A.R.S. ที่ในตอนแรกนั้นเวสเกอร์ได้ส่งหน่วยแรกมาตรวจสอบเรื่องราวการหายตัวไปของชาวเมืองแรคคูนที่หายตัวไปในป่า ซึ่งตอนนั้นเวสกอร์รู้เรื่องราวทุกอย่างหมดแล้ว และคิดว่าต่อไปเรื่องราวต้องบานปลายไปมากกว่าแน่ ๆ แต่ไหน ๆ เรื่องก็เลวร้ายขนาดนี้แล้ว เขาจึงเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสโดยการส่งหน่วย S.T.A.R.S. หน่วยที่สองไป โดยคราวนี้เขาจะไปควบคุมทุกอย่างเอง ซึ่งสุดท้ายการโกหกนี้ก็เป็นผล เพราะเวสเกอร์ได้ข้อมูลมากมายตามที่เขาต้องการจนสามารถดำเนินแผนขั้นต่อไปได้สำเร็จ นับเป็นการโกหกที่ให้ผลดีที่กว่าเราจะรู้ว่าเขาไม่ตายก็รอไปถึงภาคที่ 4 เลยทีเดียว
นายคือ Big Boss จากเกม Metal Gear Solid V The Phantom Pain
สำหรับการหลอกลวงครั้งนี้ต้องย้อนกลับไปเล่าตั้งแต่เกม ‘Metal Gear Solid V Ground Zeroes’ ที่ในตอนนั้น ‘BigBoss’ ต้องไปช่วยตัวประกันที่ค่ายกักกันที่เรียกว่า ‘Ground Zeroes’ ซึ่งนั่นคือแผนของตัวร้ายที่ต้องการหลอกให้ ‘BigBoss’ ออกมาจากฐานกลางทะเลของตนเอง เพื่อจะได้มาบุกตอนที่ ‘BigBoss’ ไม่อยู่จนเกิดเป็นการทำสงครามที่ในตอนนั้น ‘BigBoss’ ที่กลับมาทันก็ได้ประสบอุบัติเหตุจนบาดเจ็บสาหัส แขนขวาขาด และมีเหล็กเสียบที่หัวจนเหมือนเขา พร้อมอาการโคม่ากว่า 9 ปีที่เสียไปอย่างไร้ค่า จนเมื่อตื่นขึ้นมาโรงพยาบาลที่เรารักษาตัวก็ถูกฝ่ายตัวร้ายมาบุกเพื่อฆ่า‘BigBoss’ จนเมื่อเราหนีมาได้จึงเริ่มการแก้แค้นคนที่ทำลายชีวิตเรา โดยตลอดทั้งเกมนั้นเราจะไม่ทราบเลยว่า ‘BigBoss’ ที่เราเล่นและควบคุมมาตลอดนั้นเป็นเพียงตัวปลอม ที่ถูกตัวจริงจับเรามาศัลยกรรมใบหน้าใบหน้าแถมด้วยการสะกดจิตให้หลงเชื่อว่าตนเองคือ ‘BigBoss’ เพื่อการแก้แค้น ขณะที่ตัวจริงในเกมไม่ได้บอกว่าเขาหายไปไหนทำอะไร จนมาถึงตอนจบเกมที่เมื่อเราแก้แค้นสำเร็จการสะกดจิตก็ได้คลายลงไป เราจึงรู้ว่าตนเองคือตัวปลอมแต่แทนที่ตัวปลอมจะตกใจหรือโกรธแค้นที่ถูกทำแบบนี้ ตรงข้ามเขากลับยอมรับและยอมเป็นเงาของ ‘BigBoss’ ต่อไป ขณะที่เพื่อน ๆ ที่ไว้ใจ ‘BigBoss’ ตัวจริงที่เมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดก็โกรธและตีตัวออกห่างจากทั้งคู่ในเวลาต่อมา เรียกว่าหลอกทั้งตัวละครในเกมและคนเล่นได้อย่างแนบเนียนจริง ๆ และการโกหกนั้นก็ทำให้ ‘BigBoss’ ทั้งสองเสียเพื่อนที่ไว้ใจไปตลอดกาลซึ่งเป็นสิ่งที่เขาต้องแลกมากับการโกหกนี้