NieR re[in]carnation เกมจากจักรวาล NieR ในรูปแบบเกมมือถือ
NieR re[in]carnation (การกลับมาเกิดใหม่) เกมมือถือในจักรวาล NieR (และ Drakengard) ที่กำกับโดยผู้กำกับเกมสุดติสท์อย่างคุณ Yoko Taro ที่พึ่งเปิดให้บริการไปช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาในญี่ปุ่น โดยตัวเกมมีกำหนดจะเปิดให้บริการแบบทั่วโลกในเวอร์ชันภาษาอังกฤษตามมาในภายหลัง
รายละเอียดของตัวเกม
ตัวเกมพัฒนาโดย Applibot ผู้เคยมีผลงานพัฒนาเกมมือถืออย่าง Blade Xlord และ SEVEN’s CODE และตัวเกมยังจัดจำหน่ายในนามของ Square-Enix เช่นเดิม เหมือนกับตัวเกมซีรีส์ NieR ที่ผ่าน ๆ มา
เนื้อเรื่อง
NieR re[in]carnation จะเป็นเรื่องราวของเด็กหญิงสาวปริศนาที่ฟื้นสติขึ้นมาในที่ที่ไม่คุ้นเคย พร้อมกับพบว่าตนเองนั้นไม่สามารถพูดได้ และไม่มีความทรงจำใด ๆ อยู่เลย ซึ่งก็ได้ไปพบกับมาสคอตของเรื่องอย่างน้อง Mama ที่จะเดินทางตามหาความจริงกันว่าแท้จริงแล้วเธอคือใคร
ในโลกของ NieR re[in]carnation จะมีกรงขังโลกที่ถูกหลงลืมซึ่งเด็กหญิงปริศนา และ Mama จะเข้าไปเรียนรู้เรื่องราวในโลกต่าง ๆ ที่มีอยู่ทุกหนแห่งในหอคอยแห่งนี้ โดยเรื่องราวจะเป็นอย่างไร ก็อยากให้ไปเสพกันต่อเอง (ซึ่งเนื้อหาที่ปล่อยมาตอนนี้ มีเพียง 8 ตอนเท่านั้น)
อย่างที่ทราบกัน Yoko Taro เป็นผู้กำกับ และผู้วางบทของตัวเกมได้เก่งมาก (จนปวดตับ) จนทำให้ซีรีส์รุ่นพี่อย่าง NieR replicant และ NieR Automata เป็นเกมที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทั้งที่ตัวเกมไม่ได้มีเกมเพลย์ที่ดีไปกว่าเกมในแนวเดียวกันสักเท่าไหร่ ทำให้ในเกม NieR re[in]carnation ก็ยังเป็นเกมที่เน้นการเล่าเรื่องผ่านตัวเกมเป็นหลัก เสมือนเราได้ผจญภัย และตามหาความจริงที่ (สุดจะพีก) ไปกับเหล่าน้อง ๆ ทั้งหลาย
เกมเพลย์
ในด้านของเกมเพลย์ ตัวเกมจะเป็นเกมแนว Turn Based แบบ Semi Auto ที่มีกราฟิกที่ค่อนข้างสวยงาม มีระบบธาตุ และอีกหลาย ๆ อย่างที่เป็นองค์ประกอบของเกม RPG ซึ่งถ้าหากเราไม่ได้เป็นแฟนเกม NieR หรือสนุกไปกับเนื้องเรื่อง ตัวเกมก็อาจจะดูน่าเบื่อไปเลยก็ได้
จากการใช้ประโยชน์ของเนื้อเรื่อง ที่เด็กสาวตัวละครหลักจะต้องไปพบเจอกับโลกต่าง ๆ ที่ถูกผนึกเอาไว้ ทำให้ตัวเกมจะดำเนินไปแบบค่อยเป็นค่อยไป และให้เราได้ฟาร์มไอเทม และจัดอาวุธให้ไปรับมือกับศัตรูธาตุต่าง ๆ ทำให้ตัวเกมมีความท้าทายตามสไตล์ของเกมแนว RPG
นอกจากตัวเกมจะมีการแบ่งคลาสธาตุแล้ว ยังมีการแบ่งอาวุธด้วย โดยจะระบุไปตามความถนัดของตัวละคร (แต่เราก็ยังเลือกอาวุธอะไรก็ได้ให้ตัวละครได้อยู่ดี) โดยธาตุของการโจมตีก็จะขึ้นอยู่กับอาวุธที่เราใช้ ซึ่งตัวละครจะมีความพิเศษอยู่ที่ความสามารถพิเศษ (Passive), ท่าไม้ตาย (Ultimate) และ Skill การโจมตีเพียงเท่านั้น
เนื่องจากเป็นเกมมือถือ แน่นอนว่ามีระบบกาชาเกลือให้เราได้กดหาตัวละครอย่างแน่นอน ซึ่งตัวเกมค่อนข้างหาเพชรสำหรับเปิดได้ง่าย (หากมีเนื้อเรื่องให้เล่น) และค่อนข้างอำนวยความสะดวกแก่ผู้เล่นในช่วงแรกอย่างมาก ทำให้เราติดเกมนี้ได้ง่าย ๆ เลย (ตัวเกมยังมีระบบ Auto ด้วย ที่เรายังต้องการท่าไม้ตายเอาเอง)
ส่วนในฝั่งการดีไซน์ตัวละคร ซึ่งหากคุณเป็นแฟนเกมทั้ง NieR Replicant และ NieR Automata คุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะตัวละครในเกมล้วนแต่มีพื้นฐานการดีไซน์มาจากทั้ง 2 เกมนี้เลย
และถ้าคุณเป็นแฟนเกม NieR Automata ก็เหมาะมากที่จะเริ่มเล่นในช่วงนี้ (ก่อนสิ้นเดือนมีนาคม) เพราะอยู่ในช่วงของอีเวนต์ NieR Automata ที่จะมีตัวละครหลักอย่าง 2B, 9S และ A2 มาให้เรากดเกลือเอา หรือจะลงอีเวนต์เพื่อเก็บเหรียญไปแลกจากดันอีเวนต์ก็ได้ (ที่จะเป็นชุดปกติ จากภาคหลัก)
โดยรวม
NieR re[in]carnation เป็นเกมที่แฟนเกม NieR ต้องหยิบมาเล่นจริง ๆ โดยมีองค์ประกอบความเป็นเกม NieR โดย Yoko Taro ครบทุกอย่าง ทั้งเพลงประกอบที่ดีไม่แพ้กับภาคอื่น ๆ และเนื้อเรื่องสุดดีงาม ที่จะพร้อมให้คุณเสพไปพร้อมกับความเกลือกาชา
หากพูดถึงเกม Action-RPG ของฝั่งญี่ปุ่นนั้นก็คงจะต้องพูดถึงเกม Nier: Automata อย่างแน่นอน เพราะเกมนี้ได้สร้างกระแสได้ดีมากในปี 2017 ที่ผ่านมา ภายใต้การกำกับของคุณ Yoko Taro และสังกัดค่าย Square Enix ด้วยตัวเกมนั้นจะมีเอกลักษณ์เด่นคือความอ้างว้างจากโลกมนุษย์ที่ล่มสลาย ธีมเพลงที่ค่อนข้างหดหู่ และเนื้อเรื่องที่มีแต่คำถามเชิงปรัชญาที่ไม่มีอะไรถูกหรือผิดตายตัว นั่นทำให้ Nier: Automata กลายเป็นผลงานชิ้นเอกของคุณ Yoko Taro อย่างไม่ต้องสงสัย และเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2020 ที่ผ่านมา ทาง Square Enix ก็ได้ปล่อยวิดีโอตัวอย่างของซีรี่ส์นี้ ซึ่งจะอยู่บนแพลตฟอร์มของเกมมือถือทั้ง iOS และ Android โดยใช้ชื่อเกมว่า NieR Re[in]carnation
- ภาพสวยมากสำหรับเกมมือถือ
ในเรื่องกราฟิกนั้นวางใจไปได้เลย เพราะขึ้นชื่อว่าอยู่สังกัดค่าย Square Enix ที่เคยทำเกมกราฟิกอลังการอย่างซีรี่ส์ Final Fantasy มาแล้ว เรื่องภาพและกราฟิกไม่แย่อย่างแน่นอน ซึ่งมันสวยมากในระดับของเกมมือถือ ยิ่งธีมเกมอยู่ในยุคของโลกหลังการล่มสลาย ทั้งภาพ แสง สี และบรรยากาศล้วนถูกออกแบบมาอย่างลงตัว เราจะมองเห็นอารยธรรมมากมายที่น่าจะเกิดจากฝีมือมนุษย์ แต่กลับไม่พบสิ่งมีชีวิตใด ๆ อยู่ในวิดีโอนี้เลย หากนำเรื่องกราฟิกมาเปรียบเทียบกับเกม PC ยุคปัจจุบันก็คงจะสู้ไม่ได้ แต่ถ้าเทียบกับเกมมือถือด้วยกันถือว่าเกมนี้ทำออกมาได้ดีเลยครับ ซึ่งใครที่คิดว่าจะเล่นเกมนี้ในมือถือก็คงจะต้องกินสเปคกันหนักหน่อยแหละงานนี้ - เพลงประกอบที่ชวนหดหู่
นอกจากเรื่องของภาพแล้ว เกมซีรี่ส์ Nier ยังขึ้นชื่อในเรื่องของเพลงประกอบเกมอีกด้วย ถึงขนาดว่าเคยมีคอนเสิร์ตเพลงประกอบเกม Nier: Automata โดยเฉพาะมาแล้ว และในภาค NieR Re[in]carnation ที่กำลังจะออกนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเช่นเคย เพราะแม้จะเป็นคนละเพลงแต่ผู้ฟังก็ยังสัมผัสได้ถึงอารมณ์เดิม ๆ ที่เรารู้จัก เพราะมันชวนหดหู่ เศร้าหมอง โดดเดี่ยว ในขณะเดียวกันก็เหมือนกับเด็กไร้เดียงสา เมื่อนำมารวมกับภาพประกอบที่ตัวละครวิ่งอยู่บนซากสิ่งก่อสร้างโบราณก็ทำให้เรารู้สึกเหงาเช่นเดียวกัน ซึ่งผู้ประพันธ์เพลงก็น่าจะเป็นคนเดิม ก็คือคุณ Keiichi Okabe ที่เคยทำเพลงประกอบให้กับ Nier: Automata มาแล้ว
- พอจะเดาได้ว่าเนื้อเรื่องต้องปวดตับอีกแล้ว
อย่างที่เรารู้กันจากเกม Nier: Automata ในปี 2017 ว่าเนื้อเรื่องที่ถูกกำกับโดยคุณ Yoko Taro นั้นมันโหดร้ายและชวนปวดตับขนาดไหน อ้างอิงจากการให้สัมภาษณ์ของคุณ Yoko Taro ที่มีให้กับเว็บไซต์ Glixel เมื่อปี 2017 เกี่ยวกับประเด็นที่ว่าทำไม Nier: Automata ถึงออกมาชวนหดหู่ขนาดนี้ สรุปคำตอบของคุณ Yoko Taro ก็คือเขามองคำว่า Happy Ending คือการที่ตัวละครได้เติมเต็มความต้องการของตัวเองแล้ว ถึงแม้ว่าผลลัพธ์มันจะออกมา Bad Ending ในมุมมองผู้เล่นก็ตาม นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้เล่นถึงต้องปวดตับกัน เพราะความเป็นจริงนั้นโหดร้ายเสมอ และเกมที่ถูกกำกับโดยคุณ Yoko Taro ก็จะเป็นแบบนั้นเช่นเดียวกัน